19/Nov/2025 07:00 PM
การแช่น้ำเย็นดีอย่างไร
การแช่น้ำเย็น (Cold Water Immersion: CWI) คือการนำร่างกายลงไปแช่ในน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำประมาณ 5-15 องศาเซลเซียส เป็นวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากการออกกำลังกาย โดยเฉพาะกีฬาและการออกกำลังกายที่ต้องการฟื้นฟูเร็ว
ร่างกายตอบสนองอย่างไร
- เมื่อนำร่างกายไปแช่ในน้ำเย็น ร่างกายจะเกิดกระบวนการ "cold shock response" ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความเย็นอย่างเฉียบพลัน ประกอบด้วยการหายใจเร็วขึ้น (hyperventilation) หัวใจเต้นเร็วขึ้น (tachycardia) และฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นของระบบประสาทซิมพาเธติก (sympathetic nervous system) กระบวนการนี้จะอยู่ในระดับสูงสุดประมาณ 30 วินาทีและลดลงใน 3-5 นาที หลังจากนั้นระบบประสาทพาราซิมพาเธติกจะเริ่มควบคุมร่างกายให้เข้าสู่ภาวะผ่อนคลาย บทความอ้างอิง
- น้ำเย็นยังทำให้หลอดเลือดบริเวณผิวหนังหดตัว (vasoconstriction) ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปยังส่วนกลางของร่างกายเพื่อรักษาอุณหภูมิของอวัยวะสำคัญ ในขณะเดียวกันเมื่อออกจากน้ำเย็นจะเกิดการขยายตัวของหลอดเลือด (vasodilation) ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและการนำออกซิเจนและสารอาหารไปยังกล้ามเนื้อเพื่อช่วยฟื้นฟู บทความอ้างอิง
ไม่เหมาะกับใคร
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หอบหืด ผู้หญิงตั้งครรภ์ โรคหลอดเลือดผิดปกติ เช่น โรคเรย์น็อกซ์ (Raynaud’s disease)
การแช่น้ำเย็นในมุมของการออกกำลังกาย
- ลดการอักเสบและบวมของกล้ามเนื้อจากการเล่นกีฬา
- ลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและช่วยคืนสภาพความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเร็วขึ้น
- ช่วยขจัดของเสียในกล้ามเนื้อ เช่น กรดแลคติก และเพิ่มการนำพาเลือดเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
- เพิ่มอารมณ์และความรู้สึกดี เนื่องจากการปล่อยสารเอนดอร์ฟิน (endorphins) และนอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) ที่ช่วยลดความเครียด
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางร่างกาย เช่น การฟื้นฟูการกระโดด (jump performance) และการฟื้นคืนสภาพของระบบประสาทกล้ามเนื้อในนักกีฬา [บทความอ้างอิง]
อย่างไรก็ตาม การแช่น้ำเย็นมีข้อจำกัด หากแช่ในอุณหภูมิต่ำเกินไปนานเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อแข็งเกร็งและรู้สึกไม่สบาย [บทความอ้างอิง]
การแช่น้ำเย็นในมุมของ Wellness/Longivity
- ชะลอการแก่ของเซลล์และเพิ่มความยืดหยุ่นของเซลล์ต่อความเครียด
- เพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงานผ่านการกระตุ้น brown adipose tissue
- ลดการอักเสบภายในร่างกายซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังและความชรา
- บำรุงระบบไหลเวียนเลือดและการล้างสารพิษผ่านระบบน้ำเหลือง
- เพิ่มระดับฮอร์โมนความสุข เช่น Dopamine และ Norepinephrine ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและความมีชีวิตชีวา
- สนับสนุนการทำงานของ mitochondria ที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ ช่วยเพิ่มพลังงานและความทนทานทางร่างกาย และอาจมีบทบาทในความยืดอายุชีวิต [บทความอ้างอิง]

